ความทรงจำบนถนนพระอาทิตย์

ฮาเมอร์  ซาลวาลา

 

รถยนต์วิ่งผ่านย่านบางลำพู  เลี้ยวเข้าสู่ถนนพระสุเมรุ  เผยให้เห็นป้อมสีขาวตรงหน้า  ก่อนโค้งซ้ายไปตามถนน โมเดลลิ่งเอเยนซี่แห่งหนึ่งพาผมมาส่งที่บ้านหลังใหญ่  ในวัย ๒๐ ต้นๆ  ความรู้สึกดั่งเป็นคนแปลกถิ่น  ผมถามคนแถวนั้นได้ความว่าเป็น  สถาบันวัฒนธรรมเยอรมัน (เกอเธ่และถนนพระอาทิตย์

โลเคชั่นใช้แทนธนาคารใหญ่ดีไซน์เก่าขลัง  ที่ได้เอาระบบคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อความสะดวกรวดเร็วของลูกค้า  ผมแสดงเป็นผู้ช่วยนายแบงค์   ขณะให้บริการลูกค้าด้วยคอมพิวเตอร์ไอบีเอ็ม

 

กาลผ่านมาไม่นาน  เมื่อถูกแม่กึ่งบังคับให้ไปเรียนต่อเมืองนอก  ด้วยเงินมรดกลึกลับครั้งยังไม่อาจหยั่งรู้  ผมเลือกไปประเทศเยอรมนี   ผมเรียนภาษาเยอรมันที่สถาบันเกอเธ่  ถนนพระอาทิตย์อยู่ร่วมปี  แต่วนเวียนอยู่ที่สถาบันนี้อยู่ก่อนและกว่านั้น  ยามบ่ายจะเห็นหนุ่มผมยาวนามพจนา  ถือถุงโอเลี้ยงเดินไปนั่งที่สนามหญ้า  ขีดเขียนเรื่องเล่าของเขา  บางเย็นวันพุธผมจะแฝงตัวในความมืดของห้องฉายหนังบนอาคารเก่า  กับหนังเยอรมันขาวดำไร้เสียงก่อนเดินครุ่นคิดไปเงียบๆคนเดียวบนถนนยามค่ำคืน

 

ผมร่วมกิจกรรมกับสถาบันเกอเธ่อยู่เป็นระยะ  เคยขึ้นไปแจมกีตาร์ในวันงานตลาดนัดศิลปิน  อีกทั้งยังเป็นช่างภาพให้กับสถาบันฯในบางโอกาส  เช่นวันเด็ก  เมื่อเด็กๆมาวาดรูปบนรั้วริมถนนของสถาบันฯ  จนถึงครั้งสุดท้าย  เมื่อนายกเฮลมุท  โคลห์  มาวางศิลาฤกษ์ให้แก่สถาบันแห่งใหม่ที่ถนนสาธร

 

บางคนเรียกผมว่าลูกเขยเกอเธ่แต่แล้วผมก็ไม่ได้ไปเรียนต่อที่เยอรมันนี  แต่กลับไปอังกฤษแทน  และก็เพียง เดือนเท่านั้น  ถนนพระอาทิตย์กับผมก็แยกทางกันนับแต่นั้น

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง  เมื่อเพื่อนรุ่นน้องนักทำหนัง สายพิณ โทรมาบอกว่า  ผมได้รับเลือกเข้าอบรมหนังทดลองของสถาบันเกอเธ่  สถานที่อบรมคือ  หอศิลป์เจ้าฟ้า  เส้นทางก็ถูกขีดลากกลับมา และย้ำชัดขึ้นอีกเมื่อผมได้รับเลือกในการทำหนังครั้งที่   ผมขับรถวนเวียนในค่ำคืนหนึ่ง  เพื่อหาโลเคชั่นถ่ายหนัง  และเหมือนพลัดหลง  หรือแท้จริงแล้วคือแรงดึงดูดของพระอาทิตย์

 

เฮมล๊อค  สะดุดใจให้ผมขับรถวนมองอยู่ รอบ  ก่อนลงไปนั่งตัดสิน  และก็ได้รับการตอบรับด้วยดี  โดยปิดร้านให้ถ่ายหนังหนึ่งวัน  ด้วยน้ำใจและบรรยากาศ  ผมจึงมักแวะเวียนมาเฮมล๊อคเสมอ

 

งานแสดงภาพถ่ายความฝันบาดเจ็บ”  ที่ร้านเฮมล๊อค  หรือร่วมเล่นดนตรีในงานวันปิดถนน  ทั้งบนเวทีและข้างทาง   ชาวบ้านร้านรวง  ร้านเหล้าร้านอาหาร  พวกเขาน่ารักร่วมใจ  ใครเลยจะอยากจากไป  แต่แล้วหลังลมเย็นของฤดูหนาวในคราวนั้น  อังกฤษก็มาพรากผมจากไปอีกครั้ง

 

ปีที่หายไป  ผมกลับมานอนพักอยู่แถวข้าวสาร  แวะเวียนทักทายเพื่อนๆและผู้คน  นำงานภาพถ่ายขาวดำ  “เมื่อเยซูมาถึงลอนดอน”  มาแสดงที่บ้านพระอาทิตย์  ด้วยการแนะนำจากช่างภาพรุ่นน้อง ศุภชัย หลังฝากงานบางชิ้นไว้กับ  ร้านหนังสือเล็กๆ  ตรงข้ามป้อมพระสุเมรุ  ผมก็จากไปอีกครั้ง  จากเพียง อาทิตย์ที่แวะเวียนมา

 

ที่นั่นหนาวและลมแรง  เพียงใต้ผ้าห่มหนา  อาจช่วยให้คุณทุเลาลงจากงานหนักและความขุ่นมัว  แต่ไม่สามารถทำให้ใครหลบหนีจากการขุดคุ้ยของจิตใต้สำนึก ต่อกำพืดและตัวตนได้  เรื่องราวบนถนนพระอาทิตย์ของคนพเนจร ถูกเล่าเพื่อปลอบใจเขาถึงด้านที่สวยงามและมีไมตรี

 

ปีต่อมา  ผมกลับมาอีกครั้ง  พักอยู่แถวข้าวสารเหมือนเดิม  แต่เพียงระยะหนึ่งก็ได้ที่นอนหลบร้อนกลางเดือนเมษา  จากเพื่อนช่างภาพรุ่นน้อง สมิทธิ  และแนะนำให้รู้จักร้านหนังสือใหม่แทนที่ร้านเก่าที่หายไป  งานแสดงภาพถ่ายขาวดำทางกลับบ้าน”  ก็ได้แสดงที่นี่  ร้านหนังสือเดินทาง

 

ผมกลายเป็นคนแปลกหน้าผู้มาใหม่  หรือคนเคยรู้จักที่หายหน้าไปนาน  เป็นใครสักคนที่ดูคลับคล้ายคลับคลา เสียงซุบซิบบอกเล่าถึงความเป็นผมแว่วดังอยู่ข้างหลัง  แต่กับคุณ ผู้รู้จักผมดีกลับนิ่งเงียบ  ต้อนรับ

 

พระอาทิตย์  ผมขอโทษ  ที่ไม่เคยเลยสักครั้งจะทักทายคุณ  และแม้เดี๋ยวนี้  ผมคงเป็นแค่ชายแก่ผู้อ่อนแรง และยะโส  ผมถามใครๆว่า  ส่วนไหนคือดวงตาของคุณ  ทำไมป้อมพระสุเมรุจึงยินดีตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์  ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่เช่นนั้น  เป็นเพียงผู้แพ้ผู้เคยสัมผัสโอบกอดอบอุ่น  และกำลังใจจากคุณ  ผมคงจะเดินทางอีก  หรือแม้จะอ่อนแรงล้มลงที่ไหน  แต่ครั้งนี้จะแน่ใจได้ว่า  ผมได้กล่าวถึง และขอบคุณคุณแล้ว  ถนนพระอาทิตย์

7 thoughts on “ความทรงจำบนถนนพระอาทิตย์

  1. อ่านแล้วได้ความรู้สึกดีครับ
    ผมเองมีโอกาสผ่านไปแถวนั้น แล้วนึกถึงภาพยนตร์วันพุธอยู่บ้างเหมือนกัน
    แต่ที่นั่นมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว…

  2. รถเมล์สาย15 จอดรออยู่บนถนนมืดๆใต้สะพานปิ่นเกล้า ได้นั่งกลับจากต้นสาย ได้นั่งขบคิดถึงหนังที่เพิ่งดูมา

  3. ดูหนังเสร็จเดินไปส่งเพื่อนๆ ขึ้นรถเมล์ที่สนามหลวงทีละคน
    ได้คุยถึงหนังที่เพิ่งดูมากันด้วย
    หนังเรื่องไหนมันโดนมากๆ ก็ใช้พื้นที่สนามหลวงคุยกันอยู่ค่อนคืน
    บางวันรถเมล์หมด ต้องไปนอนบ้านเพื่อน

    ผมอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกนะ
    แต่ตอนนี้หนี้สินและภาระเยอะ เลยต้องตั้งใจทำงานมาก
    คิดว่าถ้าซักหกสิบ อยากจะกลับไปทำอย่างนั้นอีก
    แต่เพื่อนๆ และความรู้สึกมันคงไม่เหมือนตอนเรายังเยาว์แล้วหล่ะนะ

  4. อ่านแล้วให้ความรู้สึกดีจังครับ เหมือนได้เจอกับ เพื่อนเก่าแก่…

    ระหว่าง พ.ศ.2523-2526 ผมก็ได้ไปชมงานแสดงศิลปะที่ สถาบันเกอเธ่ แห่ง พระอาทิตย์นั้น หลายครั้ง หลังจากเรียนจบ ก็ไม่ได้ไปอีกเลย

    เวลาผ่านไป หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป แต่ก็ยังเก็บไว้ในความทรงจำเสมอ

    สถาบันเกอเธ่ แห่ง ถนนพระอาทิตย์

  5. สื่อหนังสั้น รุ่น 1 17-21 สิงหาคม 2552 สีดารีสอร์ท นครนายก
    ฮาเมอร์คะ คุณเป็นคนที่น่าค้นหามากมาย ตั้งแต่วันแรกที่ได้เลือกกลุ่มสื่อหนังสั้น
    เชื่อหรือไม่ว่าตลอดทั้ง5วันแก้วได้สังเกตุบางสิ่งบางอย่างที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคุณ
    เมื่อได้มีโอกาสใกล้ชิด บางครั้งแววตาคุณดูเศร้าๆ บางครั้งก็ดูสดใสยิ่งในเวลาที่คุณยิ้ม
    แต่ความสดใสนั้นมันแอบแฝงอะไรบางอย่างในแววตาของคุณรึป่าว
    บางครั้งก็รู้สึกว่าเข้าใจ บางครั้งก็รู้สึกว่าไม่เข้าใจในความเป็นคุณ
    และยิ่งได้อ่านเรื่องราวต่างๆที่คุณได้ระบายความรู้สึกต่างๆ
    แก้วมีความรู้สึกว่าอยากคุย อยากเป็นเพื่อน เพื่อนที่ได้แบ่งปันบางสิ่งที่อยากจะพูดอยากจะบอก
    ฮาเมอร์คะรักษาสุขภาพด้วยนะ รู้สึกเป็นห่วงมากเลย
    เสียดายเวลาห้าวันที่ผ่านมามากเลยทำไมแก้วจึงไม่กล้าเข้าไปพูดคุยกับคุณ
    หากเป็นไปได้ ฮาเมอร์ จะยินดีรับแก้วเป็นเพื่อนสักคนได้ไหม
    ติดต่อแก้วทาง e-mail นี้ได้ไหมคะ kaew_lovess@hotmail.com
    เผื่อบางครั้งอาจมีหนังสั้นของเด็กนักเรียน ให้คุณได้ commemt

Leave a reply to ดุลยสิทธิ์ Cancel reply